มงคลหมา 20 ประการ

หลวงปู่ตื้อ อจลธมฺโม

หลวงปู่ตื้อ อจลธมฺโม ได้เคยยกเรื่องความดีของสุนัข ซึ่งท่านเรียกว่า “มงคลหมา” หลวงปู่กล่าวว่าบางครั้งสัตว์ยังดีกว่าบางคน และสัตว์แต่ละชนิดก็มีดีอยู่ในตัวเอง เนื้อความตามหนังสือกล่าวว่า…

เรื่องที่หลวงปู่ตื้อ อจลธมฺโม ชอบพูดประกอบในเวลาที่ท่านสั่งสอนศิษย์ หรือบางครั้งในการแสดงพระธรรมเทศนา ท่านมักจะยกเรื่องความดีของสุนัข ซึ่งท่านเรียกว่า มงคลหมา หลวงปู่ ได้พิจารณาเกี่ยวกับสัตว์ ซึ่งเป็นสายของสัตว์โลก มีการเกิด แก่ เจ็บ ตาย เหมือนกัน

หลวงปู่บอกว่าบางครั้งสัตว์ยังดีกว่าคนบางคนเลยอีก สัตว์ทุกจำพวกมันมีดีประจำอยู่ในตัวของมัน ตามภูมิของมัน การพิจารณาชีวิตของสัตว์อันเป็นเครือของวัฎฏสงสารเหมือนกันนี้ เป็นการหาอุปมาเครื่องเปรียบเทียบ

ดังนั้นเวลามีโลกธรรมครอบงำ เราก็สามารถพิจารณาหาเหตุผลมายับยั้งชั่งใจได้ เช่น ถ้าใครเขาด่าเปรียบเปรย ว่าเราเป็นหมา ก็ไม่น่าจะโกรธ เพราะหมาก็มีความดีหลายอย่าง

หลวงปู่ดื้อท่านบอกว่า ลองพิจารณาดูให้ดี จะเห็นว่าหมาก็มีมงคล คือ ความดีประจำตัว อย่างน้อยก็ ๒๐ ประการ คือ

๑. หมาวิ่งได้เร็ว คนวิ่งตามไม่ทัน

๒. หมาเดินกลางคืนได้ ไม่ต้องจุดไฟ

๓. หมาเข้าป่าหนามไม่ปักตีน

๔.. หมามีจมูกเป็นทิพย์

๕. หมากินอาหารได้ไม่เลือก

๖. เวลาเยี่ยวมันยกขาไหว้ธรณี

๗. ก่อนนอนหมาเดินเวียนสามรอบ

๘. เวลาสืบพันธุ์ หมาไม่รู้จักอาย

๙. หมารู้จักเจ้าของดี

๑๐. ถ้ามีแขกแปลกหน้ามา หมามันเห่า

๑๑. หมาออกลูกไม่ต้องมีแม่หมอ

๑๒. หมากินอาหารก้างไม่ติดคอ

๑๓. หมาไม่เคยห่มผ้า

๑๔. เวลานอนหมาไม่หนุนหมอน

๑๕. หมาไม่ต้องปูที่นอน

๑๖. หมากินข้าวแล้วไม่ต้องกินน้ำ

๑๗. หมาไม่ต้องคิดบุญคิดบาป

๑๘. หมานอนตากแดดได้นานถึง ๓ ชั่วโมง

๑๙. ไม่ถึงฤดูกาลไม่มีการสืบพันธุ์

๒๐. หมาตกน้ำไม่ตาย ว่ายน้ำได้เร็วกว่าคน

หลวงปู่ตื้อ อจลธมฺโม
หลวงปู่ตื้อ อจลธมฺโม

หลวงปู่ท่านบอกว่า คนเราหากไม่มีดีก็สู้สัตว์ไม่ได้ และจะถูกตราหน้าว่าเป็นคนประพฤติถอยหลัง ไม่สมกับที่เกิดมาเป็นมนุษย์ หมาบางตัวที่เขาเลี้ยงไว้ มียศถึงนายพันเอกมีเงินเดือนหลายพันบาท ใครจะว่าหมาไม่ดีก็ว่าไม่ได้

ลูกสาวคุณนายเลี้ยงมาแต่เล็กๆ หมดเงินเป็นแสน เวลาโตขึ้นมาทำให้พ่อแม่ต้องเสียใจ ต้องลำบาก เดือดร้อนเนรคุณก็มี เรื่องเช่นนี้ไม่มีในหมา

หลวงปู่ยกมงคลหมาขึ้นมาแสดง เพื่อให้เราเห็นเป็นเครื่องเปรียบเทียบว่า คนเราถ้าไม่มีศีลธรรมก็ไม่ต่างอะไรจากสัตว์ เพราะมีการกิน การนอน การสืบพันธุ์ เหมือนกัน ก็เท่านั้น

ประวัติวัดเกตุการาม

พระบรมธาตุเจดีย์วัดเกตุการาม

ตามศิลาจารึก วัดเกตุการามได้สร้างเมื่อสมัยกษัตริย์ราชวงค์มังรายพญาสามฝั่งแกน พระราชบิดาของพญาติโลกราช ชื่อเดิมคือวัดสระเกษ พญาสามฝั่งแกนโปรดฯให้พระยาเมือง พระยาคำ และพระยาลือ สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 1971 ภายในวัดมีพระเจดีย์เกศแก้วจุฬามณี ซึ่งเป็นที่สักการะของชุมชน เป็นจีดีย์บูชาโดยผู้ที่เกิดในปีของสุนัขตามราศีจีน พระเจดีย์เกศแก้วจุฬามณี เป็นเจดีย์ ประธานทรงระฆังแบบล้านนา ซึ่งจำลองจากพระเกศแก้วจุฬามณีบนสวรรค์ชั้นดาว์ดึงส์ เพื่อให้สาธุชนได้สัการะ ฐานเจดีย์เป็นรูปสี่เหลี่ยวแบบย่อเก็จ มีซุ้มจระนำประดิษฐานองค์พระทั้งสี่ทิศ ส่วนบนตั้งแต่ปากระฆังถึงปลียอดประดับด้วยทองจังโกดุนลาย โดยรอบมีเจดีย์บริวารทั้งสี่มุม

นอกนั้นมีพระวิหารที่หาดูได้ยาก เป็นอาคารที่สร้างในสมัยรัตนโกสินทร์ เป็นอาคารก่ออิฐถือปูน 9 ห้อง มีเสาคู่ในรองรับหลังคาหน้าจั่ว และเสาคู่นอกรับแนวหลังคา ปีกนกย่อเก็จ สามตอน ในแนวตะวันออก-ตก หน้าบันประดับลวดลายแกะสลักลายพรรณพฤกษา ปิดทองนาคะตัน เป็นไม้แกะสลักลวดลายเครือเถาบัวหัวเสาประดับด้วยแก้วอังวะ ตัวเสามีลายทอง หางหงส์ ประดับด้วยไม้เป็นรูปนาคลำยอง ประดับด้วยแก้วอังวะ ลงรักปิดทอง มีประตูทางเข้าสามทาง หลังคาทรงจั่ว เรียงซ้อนกัน 5 ชั้น 2 ตับ และเนื่องด้วย ชุมชนอยู่ในย่านการค้าเก่าของชาวจีนที่ตั้งอยู่ริมน้ำปิง สิ่งก่อสร้างในยุคหลังที่ได้บูรณะขึ้น จึงมีศิลปะจีนปนอยู่

พระบรมธาตุเจดีย์เกศแก้วจุฬามณี สวรรค์ชั้นดาวดึงส์ พระธาตุประจำปีนักษัตรปีจอ (หมา)

พระบรมธาตุเจดีย์เกศแก้วจุฬามณี สวรรค์ชั้นดาวดึงส์

พระธาตุประจำปีจอ (หมา) พระธาตุประจำปีนี้ เดิมเป็นพระบรมธาตุเจดีย์เกศแก้วจุฬามณี ซึ่งเชื่อกันว่าประดิษฐานอยู่บนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ ต่อมาภายหลังได้มีการสร้าง พระธาตุอินทร์แขวน ประเทศพม่า หรือพระบรมธาตุเจดีย์วัดเกตุการาม อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ จึงใช้พระธาตุนี้ในการสักการะแทน

สำหรับคนที่เกิดในปีนักษัตร ปีจอ หรือปีหมา ท่านสามารถกราบนมัสการพระธาตุประจำปีเกิดเพื่อเป็นศิริมงคล คือ พระบรมธาตุเจดีย์เกศแก้วจุฬามณี ซึ่งเป็นเจดีย์ที่อยู่บนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ เป็นสวรรค์ที่อยู่บนยอดเขาพระสุเมรุ เป็นเจดีย์ที่บรรจุ เครื่องทรงและพระเมาฬีของเจ้าชายสิทธัตถะ ซึ่งทรงสละทิ้งเมื่อคราวออกผนวช และยังเป็นที่เก็บรักษาพระเขี้ยวแก้ว ของพระพุทธองค์ หลังการถวายพระเพลิงพระบรมศพอีกด้วย

เมื่อเจดีย์จุฬามณีเป็นเจดีย์ที่อยู่ไกลถึงสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ จึงมีการสมมติให้เจดีย์องค์หนึ่งในประเทศพม่า เป็นที่กราบ ไหว้แทน ซึ่งตามพุทธประวัติกล่าวไว้ว่าเป็นเจดีย์ที่ประดิษฐานพระทันตธาตุที่พระอินทร์นำมาจากพระบรมธาตุที่โทณพราหมณ์ได้แอบซ่อนไว้ เมื่อครั้งมีการแบ่งพระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้าให้เจ้าเมืองต่าง ๆ และมีตำนานเล่าว่าพระอินทร์เป็นผู้นำลามาแขวนไว้ริมหน้าผาให้ผู้คนบูชา คนไทยจึงเรียกเจดีย์องค์นี้ว่า “พระธาตุอินทร์แขวน”

พระธาตุอินทร์แขวน ตั้งอยู่บนก้อนหินสูง ๕.๕ เมตร ใต้พระเจดีย์ี่เป็นที่บรรจุพระเกศาธาตุ โดยอนุญาต ให้เฉพาะ ผู้ชายเท่านั้นที่จะข้ามเข้าไปกราบและปิดทองถึงองค์พระธาตุได้

สำหรับในประเทศไทย นอกจากนมัสการด้วยการบูชารูปแล้ว เพื่อความสะดวกในการเดินทางเพื่อกราบไหว้ ยังสามารถเดินทางมากราบนมัสการได้พระบรมธาตุเจดีย์วัดเกตุการาม อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ เพราะชื่อของวัด ออกเสียงพ้องกับพระเกศแก้วจุฬามณีเจดีย์

พระบรมธาตุเจดีย์วัดเกตุการาม
พระบรมธาตุเจดีย์วัดเกตุการาม

วัดเกตุการามตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำปิง ในเขตย่านการค้าของชาวต่างชาติ ตามประวัติว่าสร้างโดยพญาสามฝั่งแกน เมื่อ พ.ศ. ๑๙๗๑ แต่พระเจดีย์ได้พังทลายลงในปี พ.ศ.๒๑๒๑ พระสุทโธรับสั่งให้สร้างขึ้นใหม่ให้เป็น เจดีย์ทรงลังกา แบบล้านนา นอกจากนี้ภายในวัดยังมีพระวิหารใหญ่ที่สร้างในสมัยรัตนโกสินทร์ และพิพิธภัณฑ์เก็บของใช้พื้นบ้านให้ชม (เปิด ๘.๐๐ -๑๖.๐๐ น.)

นอกจากนี้การลอยโคมก็ถือเป็นการบูชาพระเจดีย์จุฬามณีบนสวรรค์อีกวิธีหนึ่งของชาวล้านนา

คำนมัสการพระธาตุวัดเกตุการาม จังหวัดเชียงใหม่ (ตั้งนโม 3 จบ)
ตาวะติงสายะ ปุรัมเม เกสะจุฬามะณี สะรีระปัพพะตา ปูชิตาสัพพะ เทวานัง ตังสิระสา ธาตุอุตตะมัง อะหัง วันทามิ สัพพะทา

คำแปล ข้าพเจ้าขอวันทาพระธาตุเกศแก้วจุฬามณี ที่ประดิษฐ์ที่อยู่สวรรค์ชั้นดาวดึงส์ ซึ่งเป็นที่เคารพบูชาของปวงเทพยดา ด้วยเศียรเกล้า ตลอดทุกเมื่อแลฯ