พระปิดตาเนื้อเมฆสิทธิ์หลวงปู่ทับ พิมพ์ชลูดเล็ก

฿ 120,000.00

พระปิดตาเมฆสิทธิ์ พิมพ์ชลูดเล็กของ หลวงพ่อทับ วัดอนงคาราม เขตคลองสาน กรุงเทพฯ ท่านเป็นพระลูกวัดของวัดอนงคาราม ที่เก่งทางคาถาอาคม เชี่ยวชาญในการเล่นแร่แปรธาตุ มีวิชาเพ่งเตโชกสิณซึ่งเป็นกสิณไฟเพื่อหลอมรวมแร่ธาตุจนได้พระเครื่องโลหะเมฆสิทธิ์ ที่มีคุณวิเศษศักดิ์สิทธิ์สามารถทำนายเหตุการณ์และป้องกันผู้ที่บูชาได้

รหัสสินค้า: AM568 หมวดหมู่: ป้ายกำกับ:

รายละเอียดเพิ่มเติม

พระปิดตาเมฆสิทธิ์ พิมพ์ชลูดเล็กของ หลวงพ่อทับ วัดอนงคาราม เขตคลองสาน กรุงเทพฯ ท่านเป็นพระลูกวัดของวัดอนงคาราม ที่เก่งทางคาถาอาคม เชี่ยวชาญในการเล่นแร่แปรธาตุ มีวิชาเพ่งเตโชกสิณซึ่งเป็นกสิณไฟเพื่อหลอมรวมแร่ธาตุจนได้พระเครื่องโลหะเมฆสิทธิ์ ที่มีคุณวิเศษศักดิ์สิทธิ์สามารถทำนายเหตุการณ์และป้องกันผู้ที่บูชาได้

โลหะเมฆสิทธิ์ประกอบด้วยแร่ธาตุ 4 ชนิดคือ เงิน สังกะสี ทองแดง และปรอท กรรมวิธีการสร้างเกิดจากการเล่นแร่แปรธาตุ เพราะขณะที่ทำการหลอมรวมจะต้องบริกรรมพระคาถากำกับไปด้วย

หลวงพ่อทับ ท่านเพ่งเตโชกสิณซึ่งเป็นกสิณธาตุไฟ ทำให้เกิดความร้อนในการหลอมแร่ธาตุคงที่ เพื่อให้ได้พระเครื่องโลหะเมฆสิทธิ์ และในระหว่างการหลอม ท่านจะเสกซัดแร่ส่วนผสมและปรอทเป็นมวลสาร และใช้คาถาอาคมให้แร่ทั้งหมดเปลี่ยนวรรณะจนเป็นโลหะเมฆสิทธิ์

โลหะเมฆสิทธิ์ที่ได้จะมีลักษณะแข็ง แต่ไม่แกร่ง ตกหล่นแล้วแตกทันที ในระยะแรกของการหล่อเสร็จ วรรณะของพระเมฆสิทธิ์จะออกขาว เมื่อนำมาแช่น้ำร้อนหรือสัมผัสอากาศจะค่อยเปลี่ยนเป็นสีเขียว

หลวงพ่อทับ ท่านได้จัดสร้างพระเมฆสิทธิ์ไว้หลายพิมพ์ เช่นพิมพ์ที่เป็นที่นิยมคือพิมพ์ปางซ่อนหา พิมพ์ใหญ่ ซึ่งมีทั้งพิมพ์แต่งและพิมพ์ไม่แต่ง และพิมพ์ปิดตา พระพิมพ์หลวงปู่ศุข พิมพ์ประภามณฑลซุ้มโค้ง-ซุ้มรัศมี พิมพ์พระชัยหัวไม้ขีด พิมพ์ซุ้มชินราช นอกจากนี้ยังหล่อเป็นลูกอมเมฆสิทธิ์ และหัวแหวนเป็นต้น

พระเมฆสิทธิ์ของหลวงพ่อทับทุกองค์ จะต้องคราบความเก่าให้เห็น เพราะอายุร่วม 100 ปี มีเรื่องเล่าว่าพระเนื้อเมฆสิทธิ์หากเก็บไว้ในที่มืดเช่นในตู้เซฟ เนื้อพระจะเป็นสีเขียวเข้มมาก เมื่อนำมาถูกแสงสว่างหรือสัมผัสเหงื่อจากการใช้ ผิวพระจะคืนเป็นสีเดิมเป็นที่น่าอัศจรรย์

ด้านพุทธคุณของพระเมฆสิทธิ์นั้น นอกจากสามารถคุ้มครองดวงชะตามิให้ตกต่ำแล้ว ยังมีคุณวิเศษด้านเมตตามหานิยมให้โชคให้ลาภ แคล้วคลาดปลอดภัย โบราณยังกล่าวว่า พระเนื้อเมฆสิทธิ์ถ้าบูชาคู่กับ พระราหูกะลาตาเดียวของหลวงพ่อน้อย วัดศีรษะทอง คนที่เคราะห์ร้ายก็จะกลายเป็นดี หนุนดวงชะตาให้ดีขึ้นให้มีแต่ความมั่นคงและสามารถอธิษฐานขอทรัพย์ได้ทุกเมื่อ

ประวัติหลวงปู่ทับ

หลวงพ่อทับ เกิดเมื่อประมาณ พ.ศ.2389 มรณภาพในปี พ.ศ.2480 ประวัติของท่านไม่ได้มีบันทึกไว้ แต่จากการบอกเล่าของ ผู้เฒ่าผู้แก่บอกต่อกันมาว่า หลวงพ่อทับจำพรรษาอยู่ที่วัดอนงค์ เป็นพระลูกวัดในสมัยสมเด็จพระพุฒาจารย์ (นวม) แต่มีพรรษาแก่กว่าสมเด็จฯ หลวงพ่อทับเชี่ยวชาญในด้านวิปัสสนากรรมฐานและวิทยาคม วิชาอีกอย่างหนึ่งคือท่านเชี่ยวชาญในด้านการผสมโลหะที่มีคุณวิเศษ หลวงพ่อทับได้คิดค้นพบการผสมโลหะจนเป็นเนื้อเมฆสิทธิ์ที่มีคุณวิเศษ เนื้อโลหะจะมีผิวเป็นประกายสีรุ้ง และสีตากุ้ง คุณวิเศษของโลหะคือเด่นทางด้านอยู่คง แคล้วคลาด และเสริมดวงกันดวงตก ว่ากันว่าการหลอมโลหะของหลวงพ่อทับต้องคุมไฟและแร่ธาตุด้วยคาถาและกระแสจิตที่สูงจึงจะสำเร็จ

วัตถุมงคลของหลวงพ่อทับที่ท่านได้สร้างไว้มีหลายอย่างเช่น พระพิมพ์ปางซ่อนหา พระปิดตา พระชัยวัฒน์ และลูกอม เป็นต้น หลวงพ่อทับมีความสนิทสนมกับสมเด็จพระสังฆราช (แพ) ในงานปลุกเสกของวัดสุทัศน์ ก็จะนิมนต์หลวงพ่อทับไปร่วมพิธีทุกครั้ง หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า ก็มีความสนิทสนมกับหลวงพ่อทับ และเมื่อหลวงปู่ศุข มากรุงเทพฯ ก็จะมาพักที่วัดอนงค์เสมอ มีการแลกเปลี่ยนวิชาความรู้กันตลอด

หลวงพ่อทับเป็นพระสงฆ์ที่เคร่งในพระธรรมวินัย สมถะไม่สะสม พูดจาไพเราะ ใครมาพบท่านก็จะเลื่อมใสศรัทธา ท่านศึกษาวิชาหลอมโลหะและทดลองจนเชี่ยวชาญ จนได้โลหะธาตุกายสิทธิ์ที่เรียกกันว่า “เมฆสิทธิ์” ลูกศิษย์จึงขอให้ท่านสร้างพระและวัตถุมงคลให้เพื่อไว้คุ้มครองป้องกันตัว หลวงพ่อทับก็กรุณาสร้างให้ โดยสร้างเป็นพระหลายอย่าง ที่รู้จักกันมากก็คือพระพิมพ์ปางซ่อนหา และพระปิดตา ส่วนเครื่องรางของขลังก็จะเป็นลูกอม ซึ่งผู้ที่ได้รับไปก็จะมีประสบการณ์ต่างๆ มากมาย คนที่ดวงตกก็จะแคล้วคลาดปลอดภัยพ้นเคราะห์ไปได้ เป็นที่เลื่องลือไปทั่ว วัตถุมงคลเนื้อเมฆสิทธิ์ของหลวงพ่อทับจึงเป็นที่เสาะหากันมากมาตั้งแต่ในสมัยที่หลวงพ่อยังไม่มรณภาพ